หัดปลูกต้นกนกนารีแคระ ทำความรู้จักกับเขาก่อน


หัดปลูกต้นกนกนารีแคระ ทำความรู้จักกับเขาก่อน


             เฟิร์นกนกนารี วงศ์กนกนารี ได้ชื่อสามัญว่า Spike Moss family จัดเป็นญาติของเฟินในกลุ่มที่เรียกว่า lycopods ดูคล้ายเฟินจริง เป็นพืฃที่มีระบบท่อลำเลียง ที่มีลักษณะของพืชโบราณ จัดอยู่ในจำพวก heterosporous (มีสปอร์ 2 แบบ คือ Megaspore และ Microspore ใน กลุ่มอับสปอร์ Strobilus ลักษณะทั่วไป ต้นเลื้อยคลุมดิน มีบ้างที่เป็นเฟิร์นเกาะอาศัย แต่น้อยมาก ขนาดต้นมีตั้งแต่เล็กถึงขนาดกลาง ลำต้น ไม่มีเนื้อไม่ ชูส่วนปลายยอดตั้งขึ้น และมักแตกกิ่งก้านเป็นคู่ๆ แผ่กระจายในระนาบเดียวเป็นส่วนมาก ที่ข้างลำต้นมีรากงอกบริเวณด้านล่าง และราก มีแตกสาขาเป็นคู่ๆ ด้วยเช่นกัน 



           ลักษณะใบ เกล็ดเล็กๆ ดูสวยงาม เรียกว่า microphyllous มีท่อเลียงเพียงอันเดียว ส่วนมากมีใบจัดเรียงตัวเป็น 4 แถว ตลอดความยาวของลำต้น 2 แถวมีขนาดใหญ่กว่า เรียก ใบกาง ventral leaves และอีก 2 แถวเป็นเกล็ดตามลำต้นเรียก ใบแนบ dorsal leaves ใบมีสีเขียวอ่อนถึงเขียวเข้ม บางชนิดมีสีแดง สีเหลือบฟ้า ดูแปลกตา บางชนิดดูคล้ายมอส หรือคลับมอส ส่วนที่สร้างสปอร์ เรียก Strobilus มีสปอร์ 2 ชนิดอยู่รวมกัน อยู่ในซอกของใบเกล็ด Sporophylls สปอร์ 2 ชนิด จัดเรียงตัวเป็น 4 แถว ติดอยู่ที่แกนของสตอบิลัส ในซอกใบเกล็ด sporophylls กนกนารีบางชนิดมี sporophyll มีแบบเดียว (uniform) และในบางชนิดมี sporophylls 2 แบบ (dimorphic) คือ microsporophylls กับ megasporeophylls 


         พืชในวงศ์นี้ มีเพียงสกุลเดียว เป็นสกุลเดี่ยว คือ Selaginella จากซากฟอสซิลทำให้ทราบว่า พืชสกุลนี้ปรากฎขึ้นบนโลกใบนี้ และได้มีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงเป็นแบบต่างๆ ในระหว่าง Carboniferous period พวกมันยังคงลักษณะโบราณเอาไว้ได้ บางคนจึงเรียกมันว่า ฟอสซิลมีชีวิต Living Fossil กนกนารี เจริญเติบโตอยู่ในธรรมชาติที่สภาพหลากหลาย แต่ส่วนมากจะขึ้นอยู่บนดิน มีน้อยที่เป็นไม้เกาะอาศัย สภาพนิเวศน์ธรรมชาติที่พบกนกนารีได้บ่อย บริเวณที่ชุ่มชื้น มีร่มเงา ใกล้ริมน้ำ โดยเฉพาะในกลุ่มที่เป็นไม้เลื้อย ทั้งชิดที่ทอดเลื้อยไปตามผิวดิน หรือเลื้อยปีนป่ายขึ้นต้นไม้ และมีบ้างที่เกิดอยู่ตามหน้าผาหิน ซึ่งด้รับแสงแดดจัดจ้าและแห้งแล้งในบางฤดู เช่น ดอกหิน เป็นต้น กระจายพันธุ์ในเขตร้อนและกึ่งร้อนทั่วโลก สามารถเจริญเติบโตได้ในพื้นที่หลากหลาย สภาพภูมิอากาศหลายแบบ และหลากหายสภาพแวดล้อม ส่วนมากจะเป็นเฟินดิน แต่ก็มีจำนวนไม่น้อยท่เป็นพืชเกาะอาศัย ซึ่งน่าสนใจมาก พืชชนิดนี้ส่วนมากมักพบบริเวณที่มีความชุ่มชื้น บริเวณร่มเงา ใต้ร่มเงาของผืนผ่า และส่วนมากทั่วไปมักอยู่ใกล้น้ำ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีลำต้นเลื้อยปีน มีบ้างที่เกิดบนพื้นที่กึ่งทะเลยทราย ซึ่งสามารถปรับตัวอยู่ให้สามารถอยู่รอดได้ในหน้าแล้ง ด้วยการพักตัวและม้วนตัวห่อกลม เพื่อเก็บความชื้นรักษาตายอดเอาไว้ ในไทยมีรายงานพบ 29 ชนิดและทั่วโลก มีจำนวนราว 800 ชนิด 



        การปลูกเลี้ยง : ส่วนมากปลูกเลี้ยงได้ง่าย ยกเว้นแต่บางชนิดที่มาจากสภาพเฉพาะถิ่นจริงๆ ส่วนมากนิยมใช้ปลูกประดับในสวนได้สวยงาม ปลูกประดับเป็นไม้คลุมดิน เกาะหิน เกาะตุ่มน้ำ หรือปลูกเป็นไม้กระถาง วางประดับโต๊ะหรือม้านั่งในสวน หรือจะปลูกเป็นไม้ในกระเช้าแขวนประดับ ปลูกเลี้ยงไม่ยาก ชอบความชื้นสูง แสงแดดรำไร สภาพอากาศไม่ร้อนหรือเย็นมากเกินไป และที่สำคัญอากาศต้องถ่ายเทสะดวก เครื่องปลูก : กนกนารีส่วนมากในธรรมชาติมักอยู่บริเวณที่ระบายน้ำดี มีน้อยมากที่พบอยู่ตามที่ลุ่มน้ำขังแฉะ ส่วนมากแล้วมักพบบริเวณที่มีอินทรีย์วัตถุสะสมจำนวนมาก และเป็นกรดอ่อนๆ ส่วนผสมที่เหมาะสม ตัวอย่างเช่น ดินหนียวหรือดินร่วน 1 ส่วน ผสมใบไม้ผุมากหน่อย 2-3 ส่วน ผสมทราย หรือถ่านละเอียด 1ส่วน เพื่อให้ระบายน้ำดีไม่ขังแฉะ ถ้าปลูกในตะกร้าแขวนควรผสมพวกมอสด้วย เพื่อช่วยเก็บความชื้นให้อยู่ได้นาน หรือจะผสมพีทมอสด้วยยิ่งดี ทำให้โตไว การให้น้ำ : กนกนารี ส่วนมาก ชอบความชุ่มชื้นในอากาศสูง โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีลำต้นเลื้อย จะชอบน้ำมากกว่าเป็นพิเศษ ส่วนต้นที่มีเหง้าเลื้อยอยู่ในดิน มักทนต่อความแห้งแล้งได้ดีกว่า จึงควรต้องปรับปริมาณน้ำให้เหมาะสม การให้ปุ๋ย : ปุ๋ยละลายช้า หรือปุ๋ยน้ำทั่วไป สามารถใช้ได้ดีกับกนกนารี การขยายพันธุ์ หากเราทำเองแบบง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก ด้วยการตัดส่วนของลำต้นหรือกิ่ง นำไป


(
ลิ้งค์อ้างอิง: https://www.youtube.com/watch?v=zJV5iBOAZC4


หัดปลูกต้นกนกนารีแคระ ที่เริ่มจากไม่เป็นเลยจนถึงตอนนี้

ค่อยๆ ศึกษา ดูแลกันไป ถ้าเข้าใจน้ำ เข้าใจแสง ก็ไม่ยากแล้ว (ลุงยู หัดทำสวน)


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปัญหารถ Yamaha XMAX สตาร์ทไม่ติด แก้ไขอย่างไร

ขี่ Yamaha XMAX 300 มาเช็คระยะ 30,000 กิโล ซ่อมบำรุงแบบจัดเต็ม มีค่าใช้จ...