Color ดาวรุ่งพุ่งแรงที่ขอท้าชนเฟซบุ๊ก!!


          กลายเป็นข่าวที่สื่อต่างประเทศให้ความสนใจเหลือเกินสำหรับ "คัลเลอร์ (Color)" แอปพลิเคชันสำหรับสมาร์ทโฟนฝีมือการพัฒนาของอดีตผู้บริหารแอปเปิลซึ่งชูธงพร้อมชนกับเครือข่ายสังคมยักษ์ใหญ่อย่างเฟซบุ๊ก (Facebook) ด้วยการเป็นเครือข่ายสังคมบนโทรศัพท์มือถือที่ไร้ชื่อยูเซอร์เนม และรหัสผ่าน มั่นใจความเหนือกว่าเรื่องความเร็ว และความยืดหยุ่นจะทำให้โลกเข้าสู่ยุคเครือข่ายสังคมที่ไม่มีคอมพิวเตอร์พีซีเข้ามาเกี่ยวข้อง งานนี้มีลุ้นเพราะกลุ่มทุนเทเงินมากกว่า 41 ล้านเหรียญพร้อมลุยโครงการชนช้างเฟซบุ๊กเรียบร้อย

บิล เหงียน (Bill Nguyen) คืออดีตผู้บริหารแอปเปิลซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งทีมพัฒนาแอปพลิเคชันน้องใหม่นามคัลเลอร์ โดยเหงียนมีดีกรีเป็นผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ให้บริการเพลงออนไลน์ Lala (lala.com) ซึ่งแอปเปิลเข้าซื้อกิจการเมื่อปี 2009 จนมีข่าวลือว่าแอปเปิลอาจใช้ Lala เป็นบันไดแห่งการสร้าง "iTunes on the cloud" หรือร้านจำหน่ายคอนเทนต์มัลติมีเดียไอจูนส์บนเทคโนโลยีการประมวลผลกลุ่มเมฆมาแล้ว
ล่าสุด เหงียนเปิดตัวเครือข่ายสังคมบนโทรศัพท์มือถือใหม่ซึ่งจะเป็นคู่แข่งกับแอปพลิเคชันเฟซบุ๊กบนสมาร์ทโฟนอย่างเต็มตัว โดยคัลเลอร์จะเปิดให้ผู้ใช้ไอโฟน และโทรศัพท์มือถือแอนดรอยด์สามารถดาวน์โหลดไปใช้งานได้ฟรี จุดเด่นคือผู้ใช้จะสามารถถ่าย และแบ่งปันภาพ วิดีโอ และข้อความไปยังโทรศัพท์มือถือเครื่องอื่นที่อยู่บริเวณใกล้เคียงได้ทันที หรือเรียลไทม์




ไม่ซ้ำเฟซบุ๊ก-โฟร์สแควร์-ทวิตเตอร์
          คัลเลอร์ คือแอปพลิเคชันที่ทำให้ผู้ใช้ทุกคนสามารถแบ่งปันภาพ วิดีโอ และข้อความกับเพื่อนหรือคนแปลกหน้าที่อยู่ในระยะ 100 ฟุตได้ โดยตัวแอปพลิเคชันจะตรวจจับอัตโนมัติว่ามีใครที่เป็น "ชาวคัลเลอร์" อยู่ใกล้บริเวณนั้น และคัลเลอร์จะสร้างกลุ่มภาพ หรือวิดีโอที่มีความเกี่ยวข้องกันเพื่อแบ่งปันข้อมูลแบบอัตโนมัติ โดยทุกภาพ และวิดีโอในคัลเลอร์จะถูกตั้งค่าเป็นสาธารณะ รวมถึงผู้ใช้คัลเลอร์ในบริเวณนั้น (100 ฟุตจากผู้เล่น) จะสามารถมองเห็นภาพที่เราแบ่งปันออกไปได้ทั้งหมด (เป็นเครือข่ายสังคมแบบเปิดเต็มตัว) โดยรูปแบบเครือข่ายสังคมเช่นนี้คัลเลอร์เรียกว่าเป็นเครือข่ายแสนยืดหยุ่นหรือ “elastic network” ที่ใช้การคำนวณของอัลกอริทึมในการจัดอันดับเพื่อนของผู้ใช้ รวมถึงการจัดสรรเรื่องกลุ่มเพื่อนให้ผู้ใช้แบบอัตโนมัติ และการแสดงความคิดเห็นรวมถึงกดชื่นชอบภาพเหล่านั้นด้วย
“elastic network” ยังมีจุดเด่นอยู่ที่การดึงภาพที่เพื่อนของผู้ใช้ได้ถ่ายไว้ก่อนหน้านั้น ณ บริเวณที่ผู้ใช้ยืนอยู่ปัจจุบันกลับมาชมอีกครั้งเพื่อนำไปเปรียบเทียบกับภาพถ่ายในปัจจุบันได้ ยกตัวอย่างเช่น นาย A เคยมาสยามเมื่อ 3 ปีก่อน และได้ใช้ "คัลเลอร์" ถ่ายเก็บภาพไว้ หลังจาก 3 ปีมาแล้วนาย B ซึ่งเป็นกลุ่มเพื่อนเดียวกับนาย A ในคัลเลอร์ ได้มาที่สยามอีกครั้ง และได้ถ่ายภาพโดย "คัลเลอร์" นาย B จะสามารถมองเห็นภาพของสยามที่นาย A เคยถ่ายไว้เมื่อ 3 ปีก่อนได้ด้วย   






          เพียง 24 ชั่วโมงแรกของการเปิดตัวแอปพลิเคชัน คัลเลอร์กลายเป็นแอปพลิเคชันยอดนิยมอันดับ 2 ในร้าน App Store ประเภท Social Networking รองจากเฟซบุ๊ก ท่ามกลางบทความที่กล่าวถึงความร้อนแรงของคัลเลอร์หลายร้อยบทความบนโลกออนไลน์ โดยเหงียนให้ความเห็นว่าคัลเลอร์จะเป็นประโยชน์กับกลุ่มสังคมปัจจุบันที่อยู่ในสถานที่เดียวกัน เช่น เพื่อนร่วมงาน หรือเพื่อนบ้าน
เสียงตอบรับแง่ลบของคัลเลอร์คือผู้ใช้หลายคนยังไม่สามารถรับอรรถรสของโปรแกรมได้เต็มที่เพราะกลุ่มเพื่อนยังไม่มีการใช้งานคัลเลอร์อย่างแพร่หลาย ทำให้ไม่พบข้อมูลของเพื่อนฝูงคนรู้จักบนคัลเลอร์ รวมถึงความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว และรัศมีที่ตรวจจับใกล้เกินไป จุดนี้เหงียนให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศว่า อนาคตของคัลเลอร์คือการแก้ปัญหาการ "โดดเดี่ยว" บนคัลเลอร์ โดยอาจปรับให้ผู้ใช้ไม่สามารถเข้าใช้คัลเลอร์ได้หากไม่มีคนรู้จักในบริเวณนั้นเลย หรืออาจเปิดให้ผู้ใช้เปลี่ยนแปลงรัศมีระยะห่างจากเพื่อนฝูงคนรู้จักให้กว้างขึ้น ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้ที่อยู่ห่างจากเพื่อนคนละเมืองสามารถรู้ความคืบหน้ากิจกรรมของกัน และกันได้ คาดว่าอัปเดทเหล่านี้จะปรากฏในคัลเลอร์ช่วงต้นเดือนเมษายนนี้
เหงียนให้สัมภาษณ์ว่าได้รับอีเมลจำนวนมากจากชาวญี่ปุ่นซึ่งใช้คัลเลอร์แบ่งปันภาพพื้นที่เสียหายกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่อยู่บริเวณใกล้เคียง ซึ่งถือเป็นประโยชน์จากความสามารถด้านการทำงานเรียลไทม์ หรือแม้แต่การใช้เมื่อเข้ารับชมคอนเสิร์ตจะช่วยให้กลุ่มคนที่เล่นคัลเลอร์สามารถแชร์ภาพ หรือวิดีโอหลากหลายมุมมองทั้งใกล้ และไกลจากเวทีไปให้กับเพื่อนๆ ที่อยู่ในคอนเสิร์ตเดียวกันได้รับรู้ เผื่อบางคนไม่สามารถมองเวทีได้ชัดเจน คัลเลอร์จะเข้ามาช่วยลดข้อจำกัดเหล่านี้ลงได้ โดยขณะนี้คัลเลอร์กำลังพัฒนาส่วนข่าว (News API) เพื่อให้นักข่าวสามารถโพสต์ภาพ และตำแหน่งเกิดเหตุ ซึ่งผู้ใช้คัลเลอร์จะสามารถกดลิงก์ข่าวเพื่ออ่านรายละเอียดได้

"คอมพิวเตอร์" ไม่เกี่ยว
          เหงียนระบุว่าเพราะการแบ่งปันภาพ และวิดีโอคือกิจกรรมยอดนิยมที่สุดบนเฟซบุ๊ก เมื่อรวมกับธรรมชาติของคัลเลอร์เรื่องการเคลื่อนที่ตลอดเวลาจะทำให้โลกเกิด "เครือข่ายสังคมที่แตกต่าง" นั่นคือเครือข่ายสังคมที่ไม่มีเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเข้ามาเกี่ยวข้อง จุดนี้เหงียนระบุว่าเป็นไปตามแนวโน้มของเครือข่ายสังคม และแอปพลิเคชันที่สนับสนุนให้ผู้ใช้ทั่วโลกออกห่างจากคอมพิวเตอร์ไปทุกที
"การเปลี่ยนแปลงไปยังโลกยุค "หลังพีซี" นั้นกำลังนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพื้นฐานอุตสาหกรรมไอทีครั้งใหญ่ เรากำลังจะแบ่งปันข้อมูลเรียลไทม์มากขึ้นเรื่อยๆในอนาคต"
มีข่าวลือว่าเหงียนนั้นสามารถจำหน่าย Lala ให้แอปเปิลเป็นเงินถึง 80 ล้านเหรียญสหรัฐ ก่อนจะร่วมงานกับแอปเปิลได้ราว 1 ปี โดยเดือนกันยายนที่ผ่านมา รายงานระบุว่าเหงียนได้รับเงินทุนสนับสนุน 14 ล้านเหรียญจากกลุ่มทุน Bain Capital Ventures และ Silicon Valley Bank จากนั้นไม่นาน หนึ่งในกลุ่มทุนยักษ์ใหญ่ของซิลิกอนวัลเลย์นาม Sequoia Capital ก็ตัดสินใจให้เงินทุนกับเหงียนอีก 25 ล้านเหรียญ พร้อมกับเงินสนับสนุนรอบ 2 มูลค่า 2 ล้านเหรียญจาก Silicon Valley Bank ทำให้เหงียนพร้อมรบกับเฟซบุ๊กด้วยไอเดียมูลค่า 41 ล้านเหรียญสหรัฐ


เหตุที่ทำให้ไอเดียนี้มีผู้สนใจ คือการไม่ได้เป็นแอปพลิเคชันแบ่งปันภาพธรรมดา แต่เป็นหนทางใหม่ในการสร้างเครือข่ายสังคมด้วยการเก็บรวบรวมข้อมูลมหาศาลที่เกี่ยวกับกิจกรรม และสถานที่อยู่ของผู้คน โดยไม่มีการเก็บข้อมูลส่วนตัวใดๆเพื่อการระบุตัวตน ทั้งชื่อ อีเมลแอดเดรส หรือแม้แต่รหัสผ่าน แนวคิดเหล่านี้อยู่บนเทคโนโลยีแสนอัจฉริยะที่ทีมพัฒนาขึ้น

และเพราะระบบของคัลเลอร์จะสามารถตรวจจับได้ว่าผู้ใช้ถ่ายภาพอะไรได้จากสถานที่ใดอย่างอัตโนมัติ ทำให้ทีมพัฒนาคัลเลอร์เชื่อว่าจะนำไปสู่การสร้างเงินจากการโฆษณา และบริการการตลาดแบบอิงสถานที่ (location-based) โดยปัจจุบันคัลเลอร์มีทีมงานทั้งสิ้น 30 ชีวิต หนึ่งในนั้นคือดีเจ พาติล (DJ Patil) หัวหน้าทีมพัฒนาเครือข่ายสังคมเพื่อโลกธุรกิจนาม LinkedIn ซึ่งทำให้ภาพความอัจฉริยะด้านเทคโนโลยีอิงสถานที่ของคัลเลอร์ยิ่งเด่นชัดมากขึ้นอีก 

คัลเลอร์ถือเป็นกิจการใหม่ชิ้นที่ 8 ของเหงียน ซึ่งมีอายุ 40 ปีในขณะนี้ โดยก่อนหน้านี้ เหงียนเคยจำหน่ายบริการ Onebox แก่บริษัท Phone.com ด้วยราคา 850 ล้านเหรียญในปี 2001

แหล่งที่มา Manager  Online


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

หัดปลูกต้นกนกนารีแคระ ทำความรู้จักกับเขาก่อน

ปัญหารถ Yamaha XMAX สตาร์ทไม่ติด แก้ไขอย่างไร

ขี่ Yamaha XMAX 300 มาเช็คระยะ 30,000 กิโล ซ่อมบำรุงแบบจัดเต็ม มีค่าใช้จ...