Near Field Communication (NFC) คืออะไร
นวัตกรรม Near Field Communication (NFC) เทคโนโลยีสื่อสารไร้สายระยะสั้น
Near Field Communication (หรือ NFC) เป็นเทคโนโลยีสื่อสารไร้สายระยะสั้นที่ใช้ได้ดีกับโครงสร้างพื้นฐานแบบไร้ สัมผัส ช่วยสนับสนุนรองรับการสื่อสารระหว่างเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ในระยะใกล้ๆ NFC ถูกพัฒนาขึ้นโดย Sony และ NXP โดยใช้คลื่นความถี่ 13.56 MHz. บนพื้นฐานมาตรฐาน ISO 14443 (Philips MIFARE and Sony’s FeliCa) ปัจจุบันบริษัททั้งสองได้ร่วมมือกับบริษัทผู้ลิตและพัฒนาโทรศัพท์เคลื่อนที่ จัดตั้งเป็น NFC Forum เพื่อให้เกิดการใช้งานในรูปแบบต่างๆมากขึ้น ในระยะเริ่มแรกมีบริษัทโทรศัพท์มือถือชั้นนำของโลกประกาศนำเทคโนโลยีนี้มา ใช้กับโทรศัพท์มือถือแล้ว เช่น Nokia, Samsung, Motorola เป็นต้น
การ ประยุกต์ใช้งานส่วนใหญ่มักนำ NFC มาใช้กับการชำระเงินที่ต้องการความรวดเร็วและมีมูลค่าไม่สูง ซึ่งจะทำให้ โทรศัพท์เคลื่อนที่ สามารถใช้เพื่อการชำระเงิน โดยวิธีการแตะบนเครื่องอ่านหรือเครื่องชำระเงิน เช่น การให้บริการในร้านอาหารจานด่วน ร้านขายสินค้า ระบบการซื้อขายตั๋ว และระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลแบบ peer-to-peer เช่น เพลง เกม และรูปภาพ การชำระเงินค่าโดยสารในระบบขนส่งมวลชน เป็นต้น การชำระเงินแบบไร้สัมผัสนี้ก่อให้เกิดการชำระเงินที่ง่ายและรวดเร็ว ลดการเข้าคิวชำระเงินในร้านค้า ห้างสรรพสินค้า และร้านสะดวกซื้อต่างๆ
NFC Update
NFC หรือ Near Field Communications ปัจจุบันมีมาตรฐานคือ ISO 18092 ซึ่งตัว chip NFC ที่ available กันอยู่ทั่วไปทุกวันนี้ก็มักจะสามารถ interop กับ มาตรฐานของ RFID ย่าน 13.56MHz พวก ISO 14443 A&B และ ISO 15693 ได้ เมื่อนำ NFC เข้าไปใช้ในมือถือ ก็จะมี applications อยู่หลักๆที่พูดกันอยู่สามสี่ตัวก็คือ เรื่องของ payment, ticketing, smart poster และ peer-to-peer communications ระหว่างมือถือด้วยกัน
โดย ในแบบ payment มือถือก็จะต้องมี batt เพราะจะต้องมีการ access และประมวลข้อมูล credit/debit และ applications ต่างๆบน SIM card ส่วนการใช้มือถือเป็น e-Ticket นั้นไม่ต้องมี batt ก็ได้ ใช้พลังงานจาก external reader ตามหลักของ RFID ทั่วไป สำหรับ smart poster ตัวมือถือก็จะทำตัวเองเป็น RFID reader แล้วไปอ่าน poster ที่มี RFID tag ฝังอยู่ ซึ่งข้อมูลที่อ่านก็อาจจะอยู่ในรูปของ URL พอมือถืออ่านมาแล้วก็ทำการ launch browser แล้วไปที่ URL ที่อ่านได้เลย
มาดูทางเทคนิคกันบ้าง เพื่อจะใช้ NFC ในมือถือนั้นจะต้องมีอยู่สองส่วนด้วยกัน คือ
1. มือถือจะต้องเป็น NFC phone คือจะต้องมี built-in antenna และ NFC chip
2. จะต้องมี secure chip ที่ใช้เก็บข้อมูลที่ต้องการ security สูงๆเช่น credit/debit information, banking applications, etc. ซึ่งในกรณีนี้ก็มีอยู่สองแบบด้วยกัน แบบแรกคือมี chip ต่างหากเพื่อใช้เก็บข้อมูลเหล่านี้ กับอีกแบบหนึ่งคือเอาไปเก็บใน SIM card ซึ่งแบบหลังนี้เป็นอะไรที่ทางฝั่งของ mobile operators ต่างๆต้องการ
ในตลาดตอนนี้มือถือที่ support nfc ทุกยี่ห้อก็คงเริ่มทำกัน ที่เห็นตั้งแต่แรกก็ของ nokia ตั้งแต่รุ่น 3220 และ 5140 ที่เป็นแบบ module เพิ่มเติมเอามาเสียบเพิ่มมาจนถึงล่าสุดรุ่น 6131 ที่ built-in nfc มาเลย อีกอันที่เห็นก็คือของ benq T80 ที่ทาง Chungwa Telecom ทำ trial อยู่ ของ nokia 6131 ยังเป็น sim ธรรมดาอยู่ แต่ใช้ secure chip ในการเก็บข้อมูล ผมคิดว่าในอนาคตน่าจะเป็นแบบเก็บใน SIM มากกว่าคือเป็น NFC-supported SIM ซึ่งตอนนี้ทั้ง NXP กับ Gemalto ก็ตกลงหันมาร่วมมือกันพัฒนามาตรฐาน SWP หรือ Single Wire Protocol เพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสารระหว่าง NFC chip กับ NFC-SIM
NFC vs Mobile Payment
Mobile Payment หรือ การชำระเงินด้วยโทรศัพท์เคลื่อนที่ผ่านระบบ Contactless เป็นที่นิยมและประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในประเทศ ญี่ปุ่น โดยผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่ NTT Docomo ภายใต้ชื่อบริการ Osaifu-Keitai ซึ่งเป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่มีฟังก์ชั่น การทำงานเสมือน กระเป๋าเงิน, credit card, ID card และ อื่นๆอีกมากมาย โดยใช้ contactless IC card ที่ชื่อว่า Felica พัฒนาโดยบริษัท Sony ติดไปกับเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่เลย
ที่ประเทศญีปุ่นผู้ให้บริการ โทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นคนกำหนดและควบคุม คุณสมบัติ ของเครื่องและให้ผู้ผลิตเครื่องผลิตตาม แต่ในไทยคงต้องดูกันว่า ต้องใช้เวลาอีกนานเท่าใด จึงจะประสบความสำเร็จ ปัจจัยหลักๆที่ควรคำนึงถึง อาทิเช่น
• Timing หรือระยะเวลาที่กว่าจะมาแพร่หลายจนทำให้เป็นอีกมาตรฐานหนึ่งของเครื่อง โทรศัพท์เคลื่อนที่นั้นเมื่อใด ซึ่งมีผลต่อจำนวนเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่จะรองรับมาตรฐาน NFC (Near Field Communication) ในท้องตลาด
หมายเหตุ : เนื่องด้วยระบบการจัดจำหน่าย และวางคุณสมบัติเครื่องโทรศัพท์ ไม่ได้มาจากทางผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ อย่างเช่นในญี่ปุ่น ความร่วมมือที่จะผลักดันให้เกิดบริการดังกล่าวจึงแตกต่างกัน
( GSMA ซึ่งเป็นสมาคมการค้าด้านอุตสาหกรรมโทรศัพท์เคลื่อนที่ระดับโลกสมาคมหนึ่ง ได้ออกมาขอให้ผู้ผลิตเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่ใส่ NFC function ในเครื่องรุ่นใหม่ ซึ่งผลจะเป็นเช่นไร จะมา update กันอีกครั้ง)
• ราคาเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่โดยเฉลี่ย
• End to End Payment System : อุปกรณ์ Reader ณ จุดชำระเงินที่รองรับเทคโนโลยีดังกล่าวมีแพร่หลายมากน้อยเพียงใด อย่างในกรณี DoCoMo ยอมลงทุนเพิ่มความสะดวกในการชำระเงินมากยิ่งขึ้น โดยเปิดให้บริการบัตรเครดิต ของตนเองในชื่อ “DCMX” และสร้างระบบ mobile credit platform ที่ชื่อว่า “iD” เพื่อรองรับการชำระเงินด้วย “Osaifu-Keitai” แถมยังเปิดระบบ “iD” ให้กับบัตรเครดิตอื่นๆมาใช้ร่วมได้ด้วย ในช่วงเปิดตัวเริ่มแรกนั้น ก็มีอุปกรณ์ “iD”ที่เป็นเครื่องอ่านบัตรเครดิตเพื่อรับชำระเงินถึง 320,000 จุด ซึ่งจำนวนของจุดชำระเงินเป็นปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้บริการนี้แพร่หลาย
อย่าง ไรก็ตามกระแสการชำระเงินผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ด้วยระบบ Contactless เป็นบริการที่น่าสนใจมาก นี่คงเป็นอีกเหตุผลนึงที่ทาง True เล็งเห็นการทำ Touch SIM ขึ้นมาก่อน โดยการผูกติดส่วนของ contactless chip กับ SIM card แทน ไม่รอคุณสมบัติที่มากับเครื่อง ก็เป็นความคิดสร้างสรรค์ที่ดีเพื่อนำออกมาสู่ตลาดก่อน ถึงแม้จะยังจำกัดเฉพาะอุปกรณ์ reader ของทาง Touch SIM อยู่ก็ตาม แต่ในอนาคตถ้าต่อไป NFC เป็นมาตรฐานที่แพร่หลาย เชื่อว่าแต่ละผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่คงจับมือร่วมกับธนาคารและนำ เทคโนโลยีที่เป็นมาตรฐานดังกล่าวมาใช้ร่วมกัน
การนำเทคโนโลยี NFC มาใช้กับ Mobile Payment ในประเทศไทย
วีซ่าผนึกธ.กสิกรไทยต่อยอดโมบายแบงกิ้งจ่ายเงินด้วยมือถือ
วีซ่า ผู้นำด้านเครือข่ายชำระเงินระดับโลก และธนาคารกสิกรไทย จับมือร่วมทดสอบบริการชำระเงินด้วยโทรศัพท์มือถือโนเกีย 6212 ซึ่งรองรับระบบ Near Field Communication หรือ NFC สำหรับทำรายการซื้อสินค้าในร้านค้าที่ติดตั้งเทคโนโลยี Contactless ของวีซ่า เพย์เวฟ ในประเทศไทย
วีซ่าจับมือธนาคารกสิกรไทย ร่วมทดสอบบริการชำระเงินด้วยโทรศัพท์มือถือโนเกีย 6212 ผ่านระบบ NFC สำหรับทำรายการซื้อสินค้าในร้านค้าที่ติดตั้งเทคโนโลยี Contactless ของวีซ่า เพย์เวฟในไทย ก่อนให้บริการเชิงพาณิชย์กลางปีนี้ ต่อยอดโมบายแบงกิ้ง
นายสมบูรณ์ ครบธีรนนท์ ผู้จัดการประเทศไทย บริษัท วีซ่า กล่าวว่า แนวโน้มที่ผู้บริโภคหันมาใช้วิธีชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์แทนเงินสดกันมากขึ้น วีซ่าจึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการผ่านช่องทางการสื่อสารด้วยอุปกรณ์มือถือ เพื่อการให้บริการชำระเงินที่รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และปลอดภัย ผู้บริโภคชาวไทยมีความพร้อมที่จะตอบรับนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่อำนวยความสะดวกสบายกับชีวิตอยู่แล้ว จึงมั่นใจว่า ด้วยมาตรฐานของระบบวีซ่า เพย์เวฟในด้านความรวดเร็ว ความสะดวกสบาย และความปลอดภัยที่สูง เชื่อว่าวิธีการชำระเงินแบบใหม่นี้จะได้รับความนิยมเป็นอย่างดี
สำหรับ ผู้เข้าร่วมโครงการทดลองบริการชำระเงินด้วยโทรศัพท์มือถือของธนาคารกสิกรไทย สามารถใช้โทรศัพท์โนเกีย รุ่น 6212 ชำระค่าสินค้า และบริการได้ ณ ร้านค้าทั่วประเทศที่มีเครื่องรับบัตรของวีซ่า เพย์เวฟกว่า 1,000 แห่งซึ่งรองรับระบบ Near Field Communication หรือ NFC ซึ่งเป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อระยะสั้นแบบไร้สายที่เกิดจากการผสานเทคโนโลยี การระบุตัวตนแบบไร้สัมผัสและการเชื่อมต่อเครือข่ายเข้าด้วยกัน ผลิตภัณฑ์ที่รองรับ NFC สามารถเชื่อมต่อ และรับส่งข้อมูลซึ่งกันและกันได้อย่างรวดเร็ว ระบบการชำระเงินที่ใช้ระบบดังกล่าวจึงมีความรวดเร็วและปลอดภัย
ด้าน นางสาวอัญชลี จรัสยศวุฒิชัย ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์และการตลาดบัตรเครดิต ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า การร่วมมือกับวีซ่าในการทดสอบระบบเพย์เวฟนี้เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่เน้นย้ำ ถึงความเป็นผู้ริเริ่มในด้านการใช้นวัตกรรม ด้วยระบบนี้ ลูกค้าสามารถจับจ่ายซื้อของผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างง่ายดาย สะดวก และรวดเร็ว เพราะบริการโมบายแบงกิ้งและการชำระเงินด้วยโทรศัพท์มือถือสอดคล้องกับวิถี ชีวิตของผู้บริโภคในปัจจุบันที่มักจะพกพาโทรศัพท์มือถือติดตัวตลอดเวลา
ความ ร่วมมือระหว่างโนเกียและวีซ่าส่งผลให้มีการนำระบบวีซ่า เพย์เวฟมาติดตั้ง ในโทรศัพท์โนเกีย 6212 ซึ่งเป็นโทรศัพท์รุ่นแรกของโนเกียที่รองรับ 3G ซึ่งที่ ผ่านมาได้มีการทดสอบระบบชำระเงินผ่านเครือข่ายไร้สายโดยใช้เทคโนโลยี NFC ในหลายประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นที่สหรัฐอเมริกาโดยธนาคารเวลส์ฟาร์โก้ ที่มาเลเซียโดยธนาคารเมย์แบงก์และแม็กซิส ที่ลอนดอนโดยธนาคารบาร์เคลส์ และที่ไต้หวันโดยธนาคารไชน่าทรัสต์คอมเมอร์เชียลและจงหวา เทเลคอม ส่วนโครงข่ายมือถือไม่จำเป็นต้องเป็น 3G ก็สามารถใช้บริการนี้ได้
“ปี ที่ผ่านมาพฤติกรรมของคนมีการทำธุรกิจผ่านอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้นประมาณ 15-20% เราจึงร่วมมือทดสอบระบบใหม่นี้ ก่อนจะหาบริษัทที่มีระบบความปลอดภัยสูง เพื่อให้บริการในเชิงพาณิชย์กลางปีนี้ เพราะเป็นหนึ่งในบริการโมบายแบงกิ้ง และคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 ปีสำหรับ สร้างการรับรู้บริการใหม่นี้”
ทั้ง นี้ หากมีการเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ผู้บริหารกสิกรไทยมีแผนจะร่วมมือกับ เครื่องลูกข่ายมือถืออีกหลายยี่ห้อ เพราะในตัวเครื่องใหม่ๆ มีเทคโนโลยี NFC ฝั่ง อยู่ในเครื่องอยู่แล้ว
ปัจจุบันกสิกรไทยมีฐานลูกค้าบัตรเครดิตประมาณ 1.2 ล้านราย คาดว่า 3-5% จะเป็นลูกค้าประเภทเพย์เวฟ
จีเอสเอ็ม โมบาย เพย์เวฟ (GSM Mobile payWave)
จี เอสเอ็ม โมบาย เพย์เวฟ (GSM Mobile payWave) เป็นบริการชำระเงินแนวใหม่ใช้โทรศัพท์มือถือแทนบัตรเครดิตชำระค่าสินค้าและ บริการ สำหรับลูกค้าจีเอสเอ็ม แอดวานซ์ ผู้ถือบัตรเครดิตกสิกรไทย เพียงนำมือถือผ่านเข้าไปที่เครื่องอ่านบัตร Visa payWave เพียงไม่กี่วินาที และสามารถใช้จ่ายอย่างสุดฮิปได้ถึง 1,500 ร้านค้าทั่วประเทศ โดยล่าสุดได้ร่วมกับ เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป (CMG) ศูนย์รวมของสินค้าแบรนด์ดังกว่า 40 แบรนด์ เข้าร่วมบริการจ่ายผ่านระบบ payWave เพื่อเอาใจขาช้อปให้สามารถเลือกสรรสินค้าได้หลากหลายยิ่งขึ้น
“GSM Mobile payWave” เป็นการชำระเงินด้วยเทคโนโลยี Near Field Communication (NFC) ซึ่งเอไอเอส และ KBank ได้รับความร่วมมือจากบริษัท Gemalto ซึ่งเป็นผู้พัฒนาระบบ Mobile Contactless ชั้นนำระดับโลก ในการพัฒนาระบบการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ในรูปแบบ Touch and Go และกำลังเป็น 1 ในเทคโนโลยีซึ่งเป็น Trend ที่มาแรงที่สุด เนื่องจากผู้บริโภคสามารถใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ชำระค่าสินค้าและบริการได้ อย่างสะดวกและรวดเร็ว เพียงยื่นโทรศัพท์เคลื่อนที่เข้าไปที่เครื่องอ่านบัตร Visa payWave เครื่องอ่านบัตรก็จะดำเนินการอ่านข้อมูลบัตรเครดิตที่บรรจุภายในโทรศัพท์ เคลื่อนที่ และทำการประมวลผลข้อมูลเพื่ออนุมัติการชำระค่าสินค้าหรือบริการนั้นๆ ทันที โดยในอนาคตจะมีการขยายการใช้บริการดังกล่าวไปยังผู้ให้บริการอื่นๆ ที่สามารถใช้ประโยชน์ของการชำระสินค้าแบบ Touch and Go หรือ Micro Payment โดยการเปิดตัวในครั้งนี้ เอไอเอส ร่วมกับ ธนาคารกสิกรไทย พัฒนาขึ้นในลักษณะของบริการนำร่องเพื่อให้ลูกค้าสัมผัสประสบการณ์การก่อนที่ จะเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบในอนาคต
การ ประยุกต์ใช้งานส่วนใหญ่มักนำ NFC มาใช้กับการชำระเงินที่ต้องการความรวดเร็วและมีมูลค่าไม่สูง ซึ่งจะทำให้ โทรศัพท์เคลื่อนที่ สามารถใช้เพื่อการชำระเงิน โดยวิธีการแตะบนเครื่องอ่านหรือเครื่องชำระเงิน เช่น การให้บริการในร้านอาหารจานด่วน ร้านขายสินค้า ระบบการซื้อขายตั๋ว และระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลแบบ peer-to-peer เช่น เพลง เกม และรูปภาพ การชำระเงินค่าโดยสารในระบบขนส่งมวลชน เป็นต้น การชำระเงินแบบไร้สัมผัสนี้ก่อให้เกิดการชำระเงินที่ง่ายและรวดเร็ว ลดการเข้าคิวชำระเงินในร้านค้า ห้างสรรพสินค้า และร้านสะดวกซื้อต่างๆ
NFC Update
NFC หรือ Near Field Communications ปัจจุบันมีมาตรฐานคือ ISO 18092 ซึ่งตัว chip NFC ที่ available กันอยู่ทั่วไปทุกวันนี้ก็มักจะสามารถ interop กับ มาตรฐานของ RFID ย่าน 13.56MHz พวก ISO 14443 A&B และ ISO 15693 ได้ เมื่อนำ NFC เข้าไปใช้ในมือถือ ก็จะมี applications อยู่หลักๆที่พูดกันอยู่สามสี่ตัวก็คือ เรื่องของ payment, ticketing, smart poster และ peer-to-peer communications ระหว่างมือถือด้วยกัน
โดย ในแบบ payment มือถือก็จะต้องมี batt เพราะจะต้องมีการ access และประมวลข้อมูล credit/debit และ applications ต่างๆบน SIM card ส่วนการใช้มือถือเป็น e-Ticket นั้นไม่ต้องมี batt ก็ได้ ใช้พลังงานจาก external reader ตามหลักของ RFID ทั่วไป สำหรับ smart poster ตัวมือถือก็จะทำตัวเองเป็น RFID reader แล้วไปอ่าน poster ที่มี RFID tag ฝังอยู่ ซึ่งข้อมูลที่อ่านก็อาจจะอยู่ในรูปของ URL พอมือถืออ่านมาแล้วก็ทำการ launch browser แล้วไปที่ URL ที่อ่านได้เลย
มาดูทางเทคนิคกันบ้าง เพื่อจะใช้ NFC ในมือถือนั้นจะต้องมีอยู่สองส่วนด้วยกัน คือ
1. มือถือจะต้องเป็น NFC phone คือจะต้องมี built-in antenna และ NFC chip
2. จะต้องมี secure chip ที่ใช้เก็บข้อมูลที่ต้องการ security สูงๆเช่น credit/debit information, banking applications, etc. ซึ่งในกรณีนี้ก็มีอยู่สองแบบด้วยกัน แบบแรกคือมี chip ต่างหากเพื่อใช้เก็บข้อมูลเหล่านี้ กับอีกแบบหนึ่งคือเอาไปเก็บใน SIM card ซึ่งแบบหลังนี้เป็นอะไรที่ทางฝั่งของ mobile operators ต่างๆต้องการ
ในตลาดตอนนี้มือถือที่ support nfc ทุกยี่ห้อก็คงเริ่มทำกัน ที่เห็นตั้งแต่แรกก็ของ nokia ตั้งแต่รุ่น 3220 และ 5140 ที่เป็นแบบ module เพิ่มเติมเอามาเสียบเพิ่มมาจนถึงล่าสุดรุ่น 6131 ที่ built-in nfc มาเลย อีกอันที่เห็นก็คือของ benq T80 ที่ทาง Chungwa Telecom ทำ trial อยู่ ของ nokia 6131 ยังเป็น sim ธรรมดาอยู่ แต่ใช้ secure chip ในการเก็บข้อมูล ผมคิดว่าในอนาคตน่าจะเป็นแบบเก็บใน SIM มากกว่าคือเป็น NFC-supported SIM ซึ่งตอนนี้ทั้ง NXP กับ Gemalto ก็ตกลงหันมาร่วมมือกันพัฒนามาตรฐาน SWP หรือ Single Wire Protocol เพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสารระหว่าง NFC chip กับ NFC-SIM
NFC vs Mobile Payment
Mobile Payment หรือ การชำระเงินด้วยโทรศัพท์เคลื่อนที่ผ่านระบบ Contactless เป็นที่นิยมและประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในประเทศ ญี่ปุ่น โดยผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่ NTT Docomo ภายใต้ชื่อบริการ Osaifu-Keitai ซึ่งเป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่มีฟังก์ชั่น การทำงานเสมือน กระเป๋าเงิน, credit card, ID card และ อื่นๆอีกมากมาย โดยใช้ contactless IC card ที่ชื่อว่า Felica พัฒนาโดยบริษัท Sony ติดไปกับเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่เลย
ที่ประเทศญีปุ่นผู้ให้บริการ โทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นคนกำหนดและควบคุม คุณสมบัติ ของเครื่องและให้ผู้ผลิตเครื่องผลิตตาม แต่ในไทยคงต้องดูกันว่า ต้องใช้เวลาอีกนานเท่าใด จึงจะประสบความสำเร็จ ปัจจัยหลักๆที่ควรคำนึงถึง อาทิเช่น
• Timing หรือระยะเวลาที่กว่าจะมาแพร่หลายจนทำให้เป็นอีกมาตรฐานหนึ่งของเครื่อง โทรศัพท์เคลื่อนที่นั้นเมื่อใด ซึ่งมีผลต่อจำนวนเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่จะรองรับมาตรฐาน NFC (Near Field Communication) ในท้องตลาด
หมายเหตุ : เนื่องด้วยระบบการจัดจำหน่าย และวางคุณสมบัติเครื่องโทรศัพท์ ไม่ได้มาจากทางผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ อย่างเช่นในญี่ปุ่น ความร่วมมือที่จะผลักดันให้เกิดบริการดังกล่าวจึงแตกต่างกัน
( GSMA ซึ่งเป็นสมาคมการค้าด้านอุตสาหกรรมโทรศัพท์เคลื่อนที่ระดับโลกสมาคมหนึ่ง ได้ออกมาขอให้ผู้ผลิตเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่ใส่ NFC function ในเครื่องรุ่นใหม่ ซึ่งผลจะเป็นเช่นไร จะมา update กันอีกครั้ง)
• ราคาเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่โดยเฉลี่ย
• End to End Payment System : อุปกรณ์ Reader ณ จุดชำระเงินที่รองรับเทคโนโลยีดังกล่าวมีแพร่หลายมากน้อยเพียงใด อย่างในกรณี DoCoMo ยอมลงทุนเพิ่มความสะดวกในการชำระเงินมากยิ่งขึ้น โดยเปิดให้บริการบัตรเครดิต ของตนเองในชื่อ “DCMX” และสร้างระบบ mobile credit platform ที่ชื่อว่า “iD” เพื่อรองรับการชำระเงินด้วย “Osaifu-Keitai” แถมยังเปิดระบบ “iD” ให้กับบัตรเครดิตอื่นๆมาใช้ร่วมได้ด้วย ในช่วงเปิดตัวเริ่มแรกนั้น ก็มีอุปกรณ์ “iD”ที่เป็นเครื่องอ่านบัตรเครดิตเพื่อรับชำระเงินถึง 320,000 จุด ซึ่งจำนวนของจุดชำระเงินเป็นปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้บริการนี้แพร่หลาย
อย่าง ไรก็ตามกระแสการชำระเงินผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ด้วยระบบ Contactless เป็นบริการที่น่าสนใจมาก นี่คงเป็นอีกเหตุผลนึงที่ทาง True เล็งเห็นการทำ Touch SIM ขึ้นมาก่อน โดยการผูกติดส่วนของ contactless chip กับ SIM card แทน ไม่รอคุณสมบัติที่มากับเครื่อง ก็เป็นความคิดสร้างสรรค์ที่ดีเพื่อนำออกมาสู่ตลาดก่อน ถึงแม้จะยังจำกัดเฉพาะอุปกรณ์ reader ของทาง Touch SIM อยู่ก็ตาม แต่ในอนาคตถ้าต่อไป NFC เป็นมาตรฐานที่แพร่หลาย เชื่อว่าแต่ละผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่คงจับมือร่วมกับธนาคารและนำ เทคโนโลยีที่เป็นมาตรฐานดังกล่าวมาใช้ร่วมกัน
การนำเทคโนโลยี NFC มาใช้กับ Mobile Payment ในประเทศไทย
วีซ่าผนึกธ.กสิกรไทยต่อยอดโมบายแบงกิ้งจ่ายเงินด้วยมือถือ
วีซ่า ผู้นำด้านเครือข่ายชำระเงินระดับโลก และธนาคารกสิกรไทย จับมือร่วมทดสอบบริการชำระเงินด้วยโทรศัพท์มือถือโนเกีย 6212 ซึ่งรองรับระบบ Near Field Communication หรือ NFC สำหรับทำรายการซื้อสินค้าในร้านค้าที่ติดตั้งเทคโนโลยี Contactless ของวีซ่า เพย์เวฟ ในประเทศไทย
วีซ่าจับมือธนาคารกสิกรไทย ร่วมทดสอบบริการชำระเงินด้วยโทรศัพท์มือถือโนเกีย 6212 ผ่านระบบ NFC สำหรับทำรายการซื้อสินค้าในร้านค้าที่ติดตั้งเทคโนโลยี Contactless ของวีซ่า เพย์เวฟในไทย ก่อนให้บริการเชิงพาณิชย์กลางปีนี้ ต่อยอดโมบายแบงกิ้ง
นายสมบูรณ์ ครบธีรนนท์ ผู้จัดการประเทศไทย บริษัท วีซ่า กล่าวว่า แนวโน้มที่ผู้บริโภคหันมาใช้วิธีชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์แทนเงินสดกันมากขึ้น วีซ่าจึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการผ่านช่องทางการสื่อสารด้วยอุปกรณ์มือถือ เพื่อการให้บริการชำระเงินที่รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และปลอดภัย ผู้บริโภคชาวไทยมีความพร้อมที่จะตอบรับนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่อำนวยความสะดวกสบายกับชีวิตอยู่แล้ว จึงมั่นใจว่า ด้วยมาตรฐานของระบบวีซ่า เพย์เวฟในด้านความรวดเร็ว ความสะดวกสบาย และความปลอดภัยที่สูง เชื่อว่าวิธีการชำระเงินแบบใหม่นี้จะได้รับความนิยมเป็นอย่างดี
สำหรับ ผู้เข้าร่วมโครงการทดลองบริการชำระเงินด้วยโทรศัพท์มือถือของธนาคารกสิกรไทย สามารถใช้โทรศัพท์โนเกีย รุ่น 6212 ชำระค่าสินค้า และบริการได้ ณ ร้านค้าทั่วประเทศที่มีเครื่องรับบัตรของวีซ่า เพย์เวฟกว่า 1,000 แห่งซึ่งรองรับระบบ Near Field Communication หรือ NFC ซึ่งเป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อระยะสั้นแบบไร้สายที่เกิดจากการผสานเทคโนโลยี การระบุตัวตนแบบไร้สัมผัสและการเชื่อมต่อเครือข่ายเข้าด้วยกัน ผลิตภัณฑ์ที่รองรับ NFC สามารถเชื่อมต่อ และรับส่งข้อมูลซึ่งกันและกันได้อย่างรวดเร็ว ระบบการชำระเงินที่ใช้ระบบดังกล่าวจึงมีความรวดเร็วและปลอดภัย
ด้าน นางสาวอัญชลี จรัสยศวุฒิชัย ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์และการตลาดบัตรเครดิต ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า การร่วมมือกับวีซ่าในการทดสอบระบบเพย์เวฟนี้เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่เน้นย้ำ ถึงความเป็นผู้ริเริ่มในด้านการใช้นวัตกรรม ด้วยระบบนี้ ลูกค้าสามารถจับจ่ายซื้อของผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างง่ายดาย สะดวก และรวดเร็ว เพราะบริการโมบายแบงกิ้งและการชำระเงินด้วยโทรศัพท์มือถือสอดคล้องกับวิถี ชีวิตของผู้บริโภคในปัจจุบันที่มักจะพกพาโทรศัพท์มือถือติดตัวตลอดเวลา
ความ ร่วมมือระหว่างโนเกียและวีซ่าส่งผลให้มีการนำระบบวีซ่า เพย์เวฟมาติดตั้ง ในโทรศัพท์โนเกีย 6212 ซึ่งเป็นโทรศัพท์รุ่นแรกของโนเกียที่รองรับ 3G ซึ่งที่ ผ่านมาได้มีการทดสอบระบบชำระเงินผ่านเครือข่ายไร้สายโดยใช้เทคโนโลยี NFC ในหลายประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นที่สหรัฐอเมริกาโดยธนาคารเวลส์ฟาร์โก้ ที่มาเลเซียโดยธนาคารเมย์แบงก์และแม็กซิส ที่ลอนดอนโดยธนาคารบาร์เคลส์ และที่ไต้หวันโดยธนาคารไชน่าทรัสต์คอมเมอร์เชียลและจงหวา เทเลคอม ส่วนโครงข่ายมือถือไม่จำเป็นต้องเป็น 3G ก็สามารถใช้บริการนี้ได้
“ปี ที่ผ่านมาพฤติกรรมของคนมีการทำธุรกิจผ่านอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้นประมาณ 15-20% เราจึงร่วมมือทดสอบระบบใหม่นี้ ก่อนจะหาบริษัทที่มีระบบความปลอดภัยสูง เพื่อให้บริการในเชิงพาณิชย์กลางปีนี้ เพราะเป็นหนึ่งในบริการโมบายแบงกิ้ง และคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 ปีสำหรับ สร้างการรับรู้บริการใหม่นี้”
ทั้ง นี้ หากมีการเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ผู้บริหารกสิกรไทยมีแผนจะร่วมมือกับ เครื่องลูกข่ายมือถืออีกหลายยี่ห้อ เพราะในตัวเครื่องใหม่ๆ มีเทคโนโลยี NFC ฝั่ง อยู่ในเครื่องอยู่แล้ว
ปัจจุบันกสิกรไทยมีฐานลูกค้าบัตรเครดิตประมาณ 1.2 ล้านราย คาดว่า 3-5% จะเป็นลูกค้าประเภทเพย์เวฟ
จีเอสเอ็ม โมบาย เพย์เวฟ (GSM Mobile payWave)
จี เอสเอ็ม โมบาย เพย์เวฟ (GSM Mobile payWave) เป็นบริการชำระเงินแนวใหม่ใช้โทรศัพท์มือถือแทนบัตรเครดิตชำระค่าสินค้าและ บริการ สำหรับลูกค้าจีเอสเอ็ม แอดวานซ์ ผู้ถือบัตรเครดิตกสิกรไทย เพียงนำมือถือผ่านเข้าไปที่เครื่องอ่านบัตร Visa payWave เพียงไม่กี่วินาที และสามารถใช้จ่ายอย่างสุดฮิปได้ถึง 1,500 ร้านค้าทั่วประเทศ โดยล่าสุดได้ร่วมกับ เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป (CMG) ศูนย์รวมของสินค้าแบรนด์ดังกว่า 40 แบรนด์ เข้าร่วมบริการจ่ายผ่านระบบ payWave เพื่อเอาใจขาช้อปให้สามารถเลือกสรรสินค้าได้หลากหลายยิ่งขึ้น
“GSM Mobile payWave” เป็นการชำระเงินด้วยเทคโนโลยี Near Field Communication (NFC) ซึ่งเอไอเอส และ KBank ได้รับความร่วมมือจากบริษัท Gemalto ซึ่งเป็นผู้พัฒนาระบบ Mobile Contactless ชั้นนำระดับโลก ในการพัฒนาระบบการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ในรูปแบบ Touch and Go และกำลังเป็น 1 ในเทคโนโลยีซึ่งเป็น Trend ที่มาแรงที่สุด เนื่องจากผู้บริโภคสามารถใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ชำระค่าสินค้าและบริการได้ อย่างสะดวกและรวดเร็ว เพียงยื่นโทรศัพท์เคลื่อนที่เข้าไปที่เครื่องอ่านบัตร Visa payWave เครื่องอ่านบัตรก็จะดำเนินการอ่านข้อมูลบัตรเครดิตที่บรรจุภายในโทรศัพท์ เคลื่อนที่ และทำการประมวลผลข้อมูลเพื่ออนุมัติการชำระค่าสินค้าหรือบริการนั้นๆ ทันที โดยในอนาคตจะมีการขยายการใช้บริการดังกล่าวไปยังผู้ให้บริการอื่นๆ ที่สามารถใช้ประโยชน์ของการชำระสินค้าแบบ Touch and Go หรือ Micro Payment โดยการเปิดตัวในครั้งนี้ เอไอเอส ร่วมกับ ธนาคารกสิกรไทย พัฒนาขึ้นในลักษณะของบริการนำร่องเพื่อให้ลูกค้าสัมผัสประสบการณ์การก่อนที่ จะเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบในอนาคต
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น